มะรุม: 9 สรรพคุณและประโยชน์ พร้อมข้อควรระวังในการกิน | บทความสุขภาพ

มะรุม (Moringa): เจาะลึกสรรพคุณและงานวิจัย พืชมหัศจรรย์เพื่อสุขภาพ

          “มะรุม” (Moringa oleifera) คือพืชสมุนไพรที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในเมนูแกงส้ม แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพืชชนิดนี้ถูกยกย่องให้เป็น “ยาครอบจักรวาล” (Panacea) และ “ต้นไม้แห่งชีวิต” (Tree of life) ด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาที่น่าทึ่ง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจประโยชน์หรือ สรรพคุณของมะรุม ที่ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พร้อมไขข้อสงสัยว่าควรกินอย่างไรให้เกิดประโยชน์และปลอดภัยที่สุด

รู้จัก “มะรุม” พืชพื้นบ้านที่มากด้วยคุณค่า

          มะรุมเป็นพืชที่สามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก ฝัก เมล็ด หรือแม้แต่ราก จึงไม่น่าแปลกใจที่พืชชนิดนี้จะถูกนำมาใช้ทั้งในด้านอาหารและยาแผนโบราณมาอย่างยาวนานในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก

จากเมนูอาหารสู่ตำรับยาสมุนไพร

          ในประเทศไทย เรานิยมนำฝักมะรุมมาทำแกงส้มหรือแกงอ่อม ขณะที่ในตำรายาพื้นบ้านมีการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ เช่น ใช้ใบพอกแผลเพื่อห้ามเลือด ใช้เมล็ดบดพอกเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อ และใช้ดอกเป็นยาบำรุงร่างกาย

สารอาหารสำคัญที่พบในมะรุม

          นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว มะรุมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น:

• โปรตีน และกรดอะมิโน
• วิตามินและเบต้า-แคโรทีน
• แร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี
• สารกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น สมุนไพรมะรุมต้านอนุมูลอิสระ ชั้นดี

เปิดลิสต์ 9 สรรพคุณของมะรุม จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

          ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่มาจากการศึกษาในระดับเซลล์และสัตว์ทดลอง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจของมะรุมในด้านต่างๆ ดังนี้

1. ช่วยควบคุมความดันโลหิต

          มีการศึกษาพบว่าสารสกัดจากใบและฝักของมะรุมมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตในสัตว์ทดลอง ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีดูแลสุขภาพหลอดเลือดหัวใจ

2. มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งและเนื้องอก

          สารสำคัญบางชนิดในใบและเมล็ดมะรุม แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง

3. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

         งานวิจัยประโยชน์ของมะรุม ในกระต่ายพบว่า การให้สารสกัดจากใบมะรุมมีผลช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

4. ปกป้องกระเพาะอาหาร

          สารสกัดจากใบและดอกมะรุมมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่ถูกกระตุ้นโดยยาบางชนิดในหนูทดลอง

5. บำรุงและป้องกันตับ

          สารสกัดจากใบ ดอก และรากของมะรุม แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ในการช่วยป้องกันเซลล์ตับจากการถูกทำลายโดยสารเคมีและยาบางชนิด

6. สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ

          มะรุมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมและโรคภัยต่างๆ

7. มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย

          น้ำคั้นสดและสารสกัดจากส่วนต่างๆ ของมะรุม เช่น ใบ ดอก และเมล็ด มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด

8. อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

          มีงานวิจัยในสัตว์ทดลองที่ชี้ว่า ผงใบแห้งและสารสกัดจากเปลือกต้นมะรุม อาจมีส่วนช่วยในการ ลดน้ำตาลในเลือด ได้ทั้งในสัตว์ปกติและสัตว์ที่เป็นเบาหวาน

9. คุณสมบัติต้านการอักเสบ

          สารสกัดจากรากและเมล็ดมะรุมมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบและการบวมในสัตว์ทดลอง ซึ่งสนับสนุนการใช้มะรุมในตำรับยาพื้นบ้านเพื่อบรรเทาอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด

มะรุมซี กิฟฟารีน

กินมะรุมอย่างไรให้ปลอดภัย? ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

          แม้ว่ามะรุมจะมีประโยชน์มากมาย แต่การบริโภคอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ปริมาณที่เหมาะสมและข้อแนะนำในการบริโภค

          จากการศึกษาความเป็นพิษเฉียบพลัน พบว่าผงใบมะรุมในปริมาณที่สูงมากไม่ก่อให้เกิดพิษในสัตว์ทดลอง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังขาดงานวิจัยระยะยาวในมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องทุกวัน และควรมีช่วงเวลาหยุดพักบ้าง เช่น กินติดต่อกัน 3-4 สัปดาห์ และหยุดพัก 1 สัปดาห์

⚠️ ใครบ้างที่ห้ามกินมะรุม? (ข้อห้ามสำคัญ)

          เพื่อความปลอดภัยสูงสุด กลุ่มบุคคลต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะรุมในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร:

• เด็กและสตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่อาจตั้งครรภ์
• ผู้ป่วยโรคเลือดจีซิกพีดี (G6PD)
• ผู้ป่วยโรคตับ ตับอักเสบ หรือตับแข็ง
• ผู้ที่รับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี

บทสรุป: มะรุม ทางเลือกดูแลสุขภาพจากธรรมชาติ

          มะรุมเป็นพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายมิติ การทำความเข้าใจข้อมูลจากงานวิจัย ควบคู่ไปกับการบริโภคอย่างพอเหมาะและระมัดระวังตามคำแนะนำ จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากพืชมหัศจรรย์ชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย